CCMF short Chart

1.สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า (Project for the Orphans)
บ้านพักถาวรเพื่อเด็กกำพร้า    ให้การอุปการะเด็กกำพร้าชายและเด็กหญิง รวมทั้งเด็กและเยาวชนในภาวะเสี่ยง โดยมูลนิธิฯจะจัดให้มีบ้านพักในบรรยากาศแบบครอบครัว รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในการดำเนินชีวิตประจำวันรวมทั้งการศึกษาทุกระดับ      จนกว่าเด็กในอุปการะจะเติบโตและมีความรู้จนสามารถประกอบอาชีพที่ดีได้  โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อลดปัญหาสังคมและป้องกันมิให้เกิดปัญหาเยาวชนที่เป็นภาระต่อสังคม   และเพื่อสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพต่อประเทศชาติ  ประกอบด้วย
1.1  สถานสงเคราะห์เด็กและเยาวชนบ้านร่มเย็นเชียงคำ(House of Grace ChiangKham) 
     ในเนื้อที่ร่วม 50 ไร่ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 98/1  บ้านสบแวน  หมู่ที่ 8  ตำบลเชียงบาน  อำเภอ    
     เชียงคำ จังหวัดพะเยา  
1.2  ศูนย์พัฒนาเด็กและเยาวชนบ้านร่มเย็นวานรนิวาส (House of Grace Wanonniwat) 
     บ้านเลขที่ 66 หมู่ที่  บ้านแหลมทอง หมู่ที่ 13 ตำบลวานรนิวาส อำเภอวานรนิวาส  
     จังหวัดสกลนคร 
 
 
2. โครงการเพื่อคนพิการ  (Project for the Disabled)   
ในสังคมปัจจุบัน  มีประชากรส่วนหนึ่งที่ประสบปัญหาทุพพลภาพ  ตาบอด หูหนวก เป็นใบ้  ไม่สามารถเคลื่อนไหวอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใด  แต่ในสภาวะไม่ปกตินี้ก็สามารถทดแทนด้วยความสามารถพิเศษในด้านอื่น โครงการเพื่อคนพิการมีภาระกิจหลักเพื่อช่วยเหลือผู้พิการแบบต่างๆ ในด้านการดำรงชีวิต การศึกษา  การให้กำลังใจและการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม  ให้มีทัศนคติที่ดีและความเชื่อมั่นต่อตนเอง   ให้โอกาสเพื่อการฝึกฝนอาชีพ   ให้ที่พักและปัจจัยเพื่อการดำรงชีวิต     เพื่อให้คนพิการไม่ต้องเป็นภาระต่อสังคมแต่สามารถช่วยเหลือตนเองและสังคมได้
      ปัจจุบันศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้พิการทั่วไป  สำนักงานเลขที่ 10 ถนนพัฒนาการซอย 17 แขวงสวนหลวงและเขตสวนหลวง  กรุงเทพฯ 10250
      ศูนย์ช่วยเหลือคนพิการด้านหูหนวก  เลขที่ 21/333 ซอยสมบูรณ์สุข  ถนนงามวงศ์วานซอย 31 อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี  11000
      ศูนย์ช่วยเหลือคนพิการสายตา  เลขที่ 64 หมู่ที่ 15 ตำบลนิเวศน์  อำเภอธวัชบุรี  จังหวัดร้อยเอ็ด 45170 
 
3. โครงการเพื่อผู้สูงอายุ   (Project for the Aged)
ด้วยตระหนักในคุณค่าของบุคคลทุกวัย  นอกจากเด็ก,  คนทำงาน    และผู้ที่เจ็บป่วยแล้ว  มีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่ต้องดำเนินชีวิตบั้นปลายอย่างโดดเดี่ยวอ้างว้าง   บ้างก็ขาดคนส่งเสียดูแลค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน           มูลนิธิพันธกิจสัมพันธ์เมตตาจึงมีโครงการบ้านพักถาวรสำหรับผู้สูงอายุในบรรยากาศแบบครอบครัว (House of Care)  ให้มีสถานที่สำหรับการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกัน   การออกกำลังกาย    การใช้เวลาในทางธรรม    มีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครผู้เชี่ยวชาญดูแลด้านสุขภาพและการปฏิบัติตัวด้านทั่วๆไป       ซึ่งอยู่ในระหว่างการจัดทำรายละเอียดโครงการทั้งหมด    และจัดสร้างบ้านพักในที่ดินของมูลนิธิฯ ”Glory Land”    เบื้องต้นจำนวน 20 ไร่ ในอำเภอปากช่อง   จังหวัดนครราชสีมา  
      ปัจจุบันมูลนิธิพันธกิจสัมพันธิ์เมตตาได้เข้าไปปรับปรุงที่ดินในด้านต่าง ๆ  เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการดำเนินงานขั้นตอนต่อไปในการจัดสร้างและเปิดโครงการอย่างเป็นทางการต่อไป
 
 
4. โครงการส่งเสริมการศึกษา  (Project for Education)
นอกจากโครงการเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว  การศึกษาถือเป็นการป้องกันและระงับการเกิดปัญหาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาบุคลากร  มูลนิธิพันธกิจสัมพันธ์เมตตาเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา โดยเฉพาะในวัยเด็กและเยาวชนอันเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต   ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ  โดยเฉพาะการเริ่มศึกษาในระดับปฐมวัยสำหรับเด็กกลุ่มหนึ่งที่มีถิ่นฐานจากชนบทที่ยังขาดโอกาสในสถานศึกษา  และความไม่เท่าเทียมกันเมื่อเทียบกับเด็กในเขตชุมชนเมือง   มูลนิธิฯจึงจัดให้มีสถาบันการศึกษาเพื่อเด็กในชนบทวัยชั้นอนุบาลถึงระดับประถมศึกษาที่มีมาตรฐานและคุณภาพ  ที่ดำเนินงานโดยคนไทย พร้อมการสอนภาษาอังกฤษร่วมกับบุคลากรเจ้าของภาษาเอง  
4.1 โรงเรียนเชียงคำคริสเตียน (ChiangKham Christian School)
โรงเรียนระดับชั้นปฐมวัยและประถมศึกษา ตั้งอยู่ที่เลขที่ 140  บ้านสบแวน หมู่ที่ 8 ตำบลเชียงบาน  อำเภอเชียงคำ  จังหวัดพะเยา  เปิดรับนักเรียนชั้นอนุบาลและระดับประถมศึกษา
 4.2 ห้องสมุดประชาชนบ้านสบแวน  (Baan SobVaen Public Library)
อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา  เพื่อเป็นแหล่งเพิ่มพูนความรู้ให้กับประชาชน และนักเรียน
นักศึกษาในท้องถิ่น รวมทั้งพื้นที่ข้างเคียง
 
5. โครงการเพื่อสุขภาพ (Project for Health Care)
เรื่องสุขภาพนับได้ว่ามีผลต่อการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของคนเราเป็นอย่างมาก   ถ้ามีสุขภาพแข็งแรง  ร่างกายเจริญเติบโตอย่างปกติในทุกส่วน ก็สามารถดำเนินชีวิตในบทบาทหน้าที่ต่างๆได้เป็นอย่างดี  ครอบครัวเป็นปกติสุข  สังคมและประเทศก็จะเจริญก้าวหน้า
5.1 งานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ (Medical Mobile Clinic)
    งานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐในการช่วยเหลือประชาชนที่ยากจนหรือผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับการรักษาพยาบาล   และคำแนะนำทางสุขภาพอนามัยอย่างถูกต้องจากแพทย์แผนปัจจุบัน  ลักษณะการดำเนินงานประกอบด้วยขบวนรถบัสหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ฯพร้อมเครื่องมือทางการแพทย์  ยารักษาโรค  และบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจากหน่วยงานและสถานพยาบาลต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน อุทิศตัวเดินทางออกไปให้บริการประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย  ให้บริการทางด้านตรวจ-รักษาโรคทั่วไปทางอายุรกรรม  ตรวจฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูนฟัน    ตรวจ-รักษาโรคตา  ผ่าตัดตาต้อเนื้อ  ต้อกระจกพร้อมเปลี่ยนเลนส์ตาเทียม   และนำเครื่องอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นไปมอบให้กับผู้ขัดสน ทั้งนี้โดยไม่คิดมูลค่าใด ๆ ทั้งสิ้นจากประชาชนผู้มารับบริการในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี ค.ศ.1988(พ.ศ.2531) จนถึงปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ.2553) นับเนื่องได้ 23 ปี  จำนวน 247 โครงการ  ใน 310 พื้นที่  มีประชาชนได้รับบริการแล้ว กว่า170,766 คน
      ปัจจุบันโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในมูลนิธิพันธกิจสัมพันธ์เมตตา ยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของพื้นที่ต่างๆ  ที่ได้แจ้งความประสงค์ไปถึงสำนักงานมูลนิธิฯเพื่อจัดตารางการออกพื้นที่ปฏิบัติงานประจำปี
5.2  งานส่งเสริมสุขภาพแพทย์แผนไทย  (Traditional Thai Health Care)
      เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ การส่งเสริมอาชีพ จากวิถีภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย โดยวิธีการให้ความรู้  การฝึกอบรม  การสอนถึงการปฏิบัติตัวและการรักษาสุขภาพด้วยสมุนไพร
 
6. โครงการเอเดน (Eden’s Project)  
ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อคนยากจนและผู้ด้อยโอกาสรวมทั้งผู้อยู่ห่างไกลความเจริญ ชาวเขา ชนกลุ่มน้อย  ซึ่งมีอาชีพหลักจากงานเกษตรกรรม “โครงการเอเดน”มีเป้าหมายเพื่อพัฒนางานเกษตรกรรมของชนกลุ่มน้อยให้มีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงดูตัวเอง ครอบครัว
และนำมาซึ่งการพัฒนาสังคมโดยส่วนรวม    กลุ่มเป้าหมายของโครงการเอเดนคือเกษตรกรที่ยากจนและด้อยโอกาสในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย  ระยะเวลาของแต่ละโครงการขึ้นอยู่กับชนิดและรูปแบบของเกษตรกรรมนั้น ๆ  โดยมูลนิธิฯ จะช่วยเหลือทั้งด้านทุนทรัพย์และความรู้
ให้กับเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายเพื่อสามารถประกอบอาชีพได้เหมาะสมและมีรายได้เพียงพอต่อ
การดูแลตัวเอง ครอบครัวและนำมาซึ่งการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ
ที่ผ่านมามูลนิธิฯได้ให้การสนับสนุนด้านโครงการเกษตรกรรมแก่ประชาชนในจังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สรวย อำเภอแม่จัน ,จังหวัดพะเยา อำเภอเชียงคำ อำเภอภูซาง  และจังหวัดบุรีรัมย์ รวมทั้งหมดกว่า20 โครงการ ในอาชีพการทำนาดำ ทำไร่ข้าวก่ำ  เลี้ยงหมู  การปลูกดอกคำปูจู  การเลี้ยงปลา ทำไร่ถั่วลิสง ไร่ข้าวโพด และการอุตสาหกรรมย่อย เช่น การเย็บจักรโพ้ง เป็นต้น
 
7. โครงการบริการสาธารณประโยชน์  (General Social Welfare Project)
เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นรายบุคคลและรายครอบครัวในด้านการศึกษา, งานอาชีพ,  ที่อยู่อาศัยหรือเอกสารราชการ       โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนพบปะบุคคลเป้าหมาย ยังถิ่นพำนัก       หรือสำรวจความเดือดร้อนในพื้นที่ประสบภัย  เพื่อศึกษาข้อมูลความเดือดร้อนและความต้องการและให้การช่วยเหลือโดยตรง   เช่น  การบรรเทาทุกข์ในภาวะเร่งด่วนด้านบ้านพัก,   การช่วยเหลือผู้หญิงที่ตั้งครรภ์จากภัยสังคมพร้อมบุตรในครรภ์,  การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย, ผู้ประสบอัคคีภัย  เป็นต้น     โดยรูปแบบงานพันธกิจสังคมสงเคราะห์ที่ผ่านมาได้แก่
 7.1 โครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดชุมพร ,จังหวัดอุดรธานี ,  จังหวัดเพชรบูรณ์,  จังหวัดแพร่ ,  จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดจันทบุรี  จังหวัดพิษณุโลก   ล่าสุดคืออำเภอพุนพิน 
จังหวัดสุราษฎร์ธานี  
7.2 โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยซึนามิจังหวัดพังงาและจังหวัดระนอง  
7.3 การช่วยเหลือทั่วไปแก่ผู้ยากไร้อย่างเฉพาะเจาะจง 14 ครอบครัว
7.4 ช่วยเหลือเด็กหญิงในภาวะเสี่ยงให้มีครอบครัวใหม่พร้อมรับโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้น
7.5 ช่วยเหลือเด็กหญิงที่มีบุตรจากการประสบภัยสังคม  ให้สามารถกลับมามีชีวิตใหม่และรับ
โอกาสใหม่ทั้งด้านการดำเนินชีวิตและการศึกษา
7.6 การมอบสิ่งของให้กับโรงเรียน / นักเรียนที่กันดารขาดแคลน ในอำเภออมก๋อย เชียงใหม่
7.7 การมอบเครื่องอุปโภค-เครื่องบริโภคทั่วไปที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ให้กับผู้ขัดสนที่มารับบริการจากงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของมูลนิธิฯ
7.8  การบริจาคชุดชั้นในสตรี และผ้าอนามัยไปมอบให้กับผู้ต้องขังหญิงในทัณฑสถานหญิงจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดชลบุรี
 

 

8. พันธกิจเรือนจำ  Prison  Ministry

ก.ชื่อโครงการ   “ชีวิตสีขาว”

ข.ระยะเวลาในการดำเนินโครงการ  เป็นโครงการต่อเนื่องระยะยาว

ค.หลักการและเหตุผล  เนื่องจากจำนวนผู้ต้องขังในประเทศไทยมีมาก  ซึ่งมูลนิธิฯเห็นความสำคัญและคุณค่าในชีวิตของผู้ต้องขังนี้   ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาจิตใจและความคิด  โดยมั่นใจว่าหากผู้ต้องขังได้รับกำลังใจ การยอมรับ และการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม  เขาจะสามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคม เป็นสมาชิกทึ่ครอบครัวพึ่งพาได้และจะร่วมกันเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ

ง.วัตถุประสงค์   เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังในทัณฑสถานต่างๆ  ได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคม สามารถมีชีวิตและอาชีพที่ถูกต้อง เป็นที่ยอมรับและเป็นกำลังพัฒนาประเทศ

จ. การดำเนินโครงการ

1  จัดหากลุ่มคนที่มีภาระใจ มีความต้องการที่จะช่วยเหลือผู้ต้องขังเพื่อมาร่วมโครงการ

2  จัดหาทัณฑสถานที่สามารถขออนุญาตเข้าไปเพื่อดำเนินโครงการ

3  อบรมความรู้ในเรื่องการดำเนินชีวิต  การอบรมอาชีพและทักษะที่สามารถช่วยให้ผู้ต้อง

    ขังในเรือนจำหรือเยาวชนในสถานพินิจ ได้นำไปใช้ประโยชน์หรือประกอบอาชีพได้เมื่อ

    พ้นโทษ

    3.1  ให้การอบรมและพัฒนาด้านคุณธรรมจริยธรรมในขณะที่อยู่ในเรือนจำ/สถานพินิจ

    3.2  ให้การส่งเสริมด้านการศึกษาและพัฒนาด้านอาชีพ

    3.3  จัดโครงการบำบัดฟื้นฟูชีวิต เพื่อให้ไม่มีพฤฒิกรรมทำผิดซ้ำ

    3.4  จัดโครงการเตรียมความพร้อมก่อนพ้นโทษ เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถกลับสู่สังคมได้

           อย่างมั่นคงและมั่นใจ

4  ประเมินผลการดำเนินงานโครงการ เพื่อพัฒนาปรับปรุงและดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

**************************************