สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า ในมูลนิธิพันธกิจสัมพันธ์เมตตา
ความเป็นมาของโครงการ
ในปี ค.ศ.1988 (พ.ศ.2531) ประชากรไทยในชนบทที่ห่างไกลความเจริญจำนวนมากยังต้องประสบปัญหาด้านสุขภาพทั้งขั้นพื้นฐานและชั้นรุนแรง มูลนิธิพันธกิจสัมพันธ์เมตตาจึงได้จัดตั้งขึ้น ทำการสำรวจข้อมูลต่าง ๆ อย่างจริงจัง และจัดให้มีงานสังคมสงเคราะห์หน่วยแพทย์เคลื่อนที่อันประกอบด้วยทีมบุคคลากรอาสาสมัครทางการแพทย์พร้อมรถบัสและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เดินทางออกไปให้บริการตรวจ-รักษาสุขภาพพร้อมมอบเครื่องอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นให้กับผู้ขัดสนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ต่อมาในปี ค.ศ.2000 (พ.ศ.2543) พี่น้องคนไทยจำนวนไม่น้อยต้องเสียชีวิตหรือได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงด้วยโรคเอดส์ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ “พะเยา”เป็นอันดับต้นที่ปรากฎปัญหาเอดส์มากที่สุด เด็กกำพร้าเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆเกินกว่าภาครัฐจะให้การอุปการะได้อย่างทั่วถึงในขณะนั้น มูลนิธิพันธกิจสัมพันธ์เมตตา ซึ่งเป็นหน่วยงานสังคมสงเคราะห์โดยเอกชนที่ตระหนักในฐานะเพื่อนมนุษย์ที่มีกำลังและโอกาสมากกว่า ได้มีภาระใจอย่างสูงต่อเด็กกำพร้ากลุ่มนี้ จึงได้จัดสร้างสถานสงเคราะห์เพื่อเป็นบ้านพักถาวรสำหรับเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ขึ้น ให้ชื่อโครงการว่า “บ้านร่มเย็น” (House of Grace)
ลักษณะโครงการเด็กกำพร้า
“บ้านร่มเย็น” (House of Grace) ก่อตั้งขึ้นด้วยภาระใจและความห่วงใย ที่ ศาสนาจารย์ ดร.วีรชัย โกแวร์ ประธานมูลนิธิพันธกิจสัมพันธ์เมตตาและทีมงานที่มีต่อสังคมไทย โดยตระหนักว่าเด็กวันนี้คือกำลังสำคัญของชาติในอนาคต เพื่อเด็กไทยจำนวนหนึ่งจะได้รับความรักความอบอุ่นและความเอาใจใส่ดูแลอย่างดี เป็นบ้านพักถาวรที่พร้อมไปด้วยบรรยากาศของ”ครอบครัว” ซึ่งจะให้การอุปการะเด็กกำพร้าที่สูญเสียบิดาหรือมารดาและเด็กในภาวะเสี่ยงจากที่ต่าง ๆ ด้วยสาเหตุจากโรคเอดส์และภัยสังคมอันเป็นเด็กที่ครอบครัวเดิมไม่สามารถหรือไม่อยู่ในฐานะที่จะเลี้ยงดูได้ โดยทุนทรัพย์ในการดำเนินงานโครงการเด็กกำพร้า”บ้านร่มเย็น”นี้ได้มาจากผู้มีจิตศรัทธาทั่วไปทั้งแบบประจำและไม่ประจำ โดยจะเริ่มรับเด็กอายุ แรกเกิด – 7 ปี เข้ามาอุปการะในบ้านพักถาวร ให้การดูแลทุกด้านพร้อมส่งเสียให้ได้รับการศึกษาพร้อมการอบรมจริยธรรมและปลูกฝังให้เด็กได้เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
วิธีการดำเนินงานและขอบเขตการให้ความช่วยเหลือ
1. จดทะเบียนถูกต้องกับกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
(บ้านร่มเย็นเชียงคำ จังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2000 (พ.ศ.2543)
2. สำรวจและศึกษาข้อมูลเด็กตามเป้าหมายโครงการ อายุตั้งแต่ แรกเกิด – 7 ขวบ
2.1 เด็กชายหรือเด็กหญิงที่สูญเสียบิดามารดา หรือถูกบิดามารดาทอดทิ้งตามโรงพยาบาลและที่ต่าง ๆ
2.2 เป็นเด็กที่ไม่มีผู้อุปการะ
2.3 เป็นเด็กที่ยังไม่ได้ติดเชื้อเอดส์
2.4 เป็นเด็กในภาวะยากจน, ภาวะเสี่ยง หรือภาวะยากลำบากในชีวิต
3. ดำเนินการทางด้านกฎหมายเพื่อรับเด็กเข้ามาอยู่ในอุปการะของ “บ้านร่มเย็น”
4. ให้บ้านพักอาศัยแบบถาวรพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคและปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
5. ให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลเด็กที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการเป็นผู้เลี้ยงดู ซึ่งสามารถให้ความรัก และการอบรม-สั่ง
สอนเด็กที่อยู่ในอุปการะให้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ
6. ให้มีการตรวจดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องโดยสม่ำเสมอ
7. ให้การสนับสนุนส่งเสริมให้เด็กได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่จนถึงขั้นที่เด็กสามารถนำไปประกอบอาชีพได้
พร้อมการอบรมทางด้านจริยธรรม และปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม
สถานที่จัดตั้งโครงการ
1.โครงการที่ 1 จังหวัดพะเยา
มูลนิธิพันธกิจสัมพันธ์เมตตาได้เลือกพื้นที่ความรุนแรงของปัญหาเอดส์ในอันดับต้นเป็นพื้นที่แรกของโครงการเด็กกำพร้า ชื่อว่า “ศูนย์พัฒนาเด็กและเยาวชนบ้านร่มเย็นเชียงคำ ในมูลนิธิพันธกิจสัมพันธ์เมตตา” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “House of Grace ChiangKham” ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 96/1 บ้านสบแวน หมู่ที่ 8 ตำบลเชียงบาน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา จดทะเบียนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2000 (พ.ศ.2543) รับอุปการะเด็กเริ่มแรกจากอายุแรกเกิด - 7 ปี ทั้งเด็กชายและเด็กหญิง (ปัจจุบัน ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2011 มีเด็กในอุปการะ 26 คน อายุ 2- 18 ปี)
2.โครงการที่ 2 จังหวัดสกลนคร
นอกจากในพื้นที่ภาคเหนือแล้ว จากข้อมูลการศึกษาพบว่ามีเด็กกำพร้าอีกจำนวนไม่น้อยที่มีถิ่นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ต้องการความช่วยเหลือ มูลนิธิฯจึงได้สร้างศูนย์พัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งที่ 2 ขึ้น ชื่อว่า “ศูนย์พัฒนาเด็กและเยาวชนบ้านร่มเย็นวานรนิวาส ในมูลนิธิพันธกิจสัมพันธ์เมตตา” (House of Grace Wanon Niwat) ณ บ้านเลขที่ 66 บ้านแหลมทอง หมู่ที่ 13 ตำบลวานรนิวาส อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร จดทะเบียนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2007 (พ.ศ.2550) ปัจจุบันมีเด็กในอุปการะ 5 คน อายุ 3-12 ปี
ระเบียบการอุปการะเด็ก “บ้านร่มเย็น”
1.เป็นเด็กที่สูญเสียบิดามารดา บิดามารดาทอดทิ้ง มีฐานะยากจนและไม่มีผู้อุปการะ
2.เด็กได้รับการตรวจจากแพทย์ในสถานพยาบาลที่ถูกต้องและพบว่าไม่มีเชื่อโรคเอดส์
3.เป็นเด็กที่ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นโรคติดต่อถึงผู้อื่น
4.เด็กจะผ่านขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อให้อยู่ในความอุปการะของ”บ้านร่มเย็น” โดยผู้ปกครองเดิมของเด็กจะต้องมอบสิทธิ์การปกครองเด็กให้กับ”บ้านร่มเย็น” และต้องไม่ก้าวก่ายหรือเรียกร้องสิทธิ์ใด ๆ ขณะที่เด็กยังอยู่ในอุปการะดูแลของ”บ้านร่มเย็น”
5.ผู้ปกครองเดิมของเด็กจะรับเด็กกลับบ้านหรือครอบครัวเดิมของเด็กได้ เมื่อได้ทำตามขั้นตอนระเบียบการรับเด็กกลับบ้าน และต้องได้รับความเห็นชอบและอนุญาตจากเจ้าหน้าที่”บ้านร่มเย็น”อย่างเป็นทางการ-เป็นลายลักษณ์อักษรลงนามรับรองร่วมกันอย่างถูกต้องแล้วเท่านั้น
6.“บ้านร่มเย็น”จะดูแลเด็กในความอุปการะโดยหลักการของความรัก ความเข้าใจเป็นหลักสำคัญ บนพื้นฐานของศิลธรรม-จริยธรรมที่ดีและถูกต้อง
7.กรณีเด็กมีความประพฤฒิไม่เหมาะสม เจ้าหน้าที่”บ้านร่มเย็น”จะดูแลอบรมตักเตือน และหากเด็กไม่ยอมเชื่อฟังและไม่ยอมอยู่ในกฎระเบียบของ”บ้านร่มเย็น” “บ้านร่มเย็น”มีสิทธิ์ที่จะส่งเด็กกลับคืนให้กับผู้ปกครองเดิมของเด็กซึ่งเป็นผู้เดียวกับผู้ที่นำเด็กมามอบให้ตั้งแต่แรก